เวียนศีรษะ-บ้านหมุน (Vertigo) คืออาการเวียนศีรษะที่มีมากกว่าธรรมดา เพราะมีอาการรู้สึกเหมือนบ้านหรือสิ่งของที่มองเห็นหมุนได้ ผู้ที่เป็นจะรู้สึกเสียอาการทรงตัว และมีอาการคลื่นไส้ หรืออาจจะมีอาเจียนร่วมด้วย
อาการมักจะเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน โดยเฉพาะในจผู้สูงอายุ อาการแบบนี้มักไม่ค่อยเป็นอันตราย มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เป็นอาการนำของโรคร้ายแรงอื่นๆ
เวียนศรีษะ-บ้านหมุน เป็น เพียงกลุ่มอาการเท่านั้น ซึ่งบ่งบอกถึงว่ามีความผิดปกติในการรักษาสมดุลของร่างกาย ซึ่งอาจเกิดจาก สมอง, ระบบประสาทหูส่วนกลาง, ระบบการไหลเวียนโลหิต ยา ฯลฯ
นับว่าโชคดีไม่น้อยที่อาการเวียนศีรษะ-บ้านหมุน ส่วนใหญ่มักเป็นชั่วคราว และไม่ใช่มาจากสาเหตุโรคร้ายแรงที่เป็นอันตรายต่อชีวิต ซึ่งมีเพียงส่วนน้อยนิดที่มาจากโรคร้าย ส่วนใหญ่ที่เป็นมักไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด บางคนเป็นไม่กี่ชั่วโมง บางคนเป็นอยู่หลายๆ วันหรือเป็นๆ หายๆ
ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่พบอาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ-บ้านหมุน ได้แก่
๑. อุบัติเหตุทางสมอง
๒. สมองขาดเลือด
๓. เครียด วิตกกังวล
๔. อดนอน พักผ่อนไม่เพียงพอ
๕. ดื่มสุรา หรือยาบางชนิด
๖. การอักเสบของหูชั้นใน
๗. โรคเมเนียส์ ( Meniere's disease) ซึ่งเป็นโรคของประสาทหูชั้นในชนิดหนึ่ง
๘. ปวดศีรษะไมเกรน บางคนมีอาการเวียนศีรษะ-บ้านหมุนร่วมด้วย
๙. เนื้องอกในสมอง หรือในหู
๑๐. การเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว เช่น บางคนไปเที่ยว สวนสนุก นั่งเครื่องเล่นที่หมุนเร็วก็เป็นได้
อันตรายมากไหม
ลำพัง แต่อาการเวียนศีรษะ-บ้านหมุนถ้าไม่ได้มาจากสาเหตุที่ร้ายแรงไม่เป็นอันตราย แต่ที่อันตรายคืออุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นได้จากการเสียการทรงตัว โดยเฉพาะ คนที่ต้องทำงานกับเครื่องจักรกล หรือยานพาหนะที่มีความ เร็วสูงหรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ใน คนที่มีอาการอาเจียนมากๆ ร่างกายจะสูญเสียน้ำและเกลือแร่ ถ้าหากได้น้ำและเกลือแร่ทดแทนไม่ทัน จะทำให้ร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่ ความดันเลือดจะตกต่ำลง และอาจจะมีอาการของภาวะช็อกได้ ถ้าไม่ได้รับการแก้ไข ก็ทำให้เป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ส่วนผู้ที่มีสาเหตุมาจากโรคอื่นๆ ก็มีอันตรายเป็นเพราะจากโรคนั้นๆ
ดูแลตนเองอย่างไรดี
เนื่อง จากอาการเวียนศีรษะ-บ้านหมุนพบได้บ่อย โดยเฉพาะผู้สูงอายุทั้งหลาย การรู้จักวิธีการดูแลรักษาตัวเองเบื้องต้น จะช่วยให้มีความสะดวกและลดการพึ่งพาแพทย์และโรงพยาบาลได้มาก การดูแลตนเองค่อนข้างไม่ยากและลำบากแต่ประการใด ส่วนใหญ่แล้ว อาการเวียนศีรษะ-บ้านหมุนหายเองได้ แม้ไม่ได้ทำอะไรเลย การรักษาและดูแลตนเองช่วยให้อาการทุเลาลงได้เร็ว และลดความ ทุกข์ทรมานของอาการเวียนศีรษะ-บ้านหมุน
เมื่อท่านมีอาการเวียน ศีรษะ-บ้านหมุน สิ่งที่ควรทำ มีดังต่อไปนี้
๑. นอนพัก เพราะจะเสียการทรงตัว การนอนพักช่วยลดอาการและลดอุบัติเหตุได้ การนอนหลับตาจะช่วยได้มาก บางคนลืมตาไม่ได้เลย เพราะจะมีอาการมากขึ้น
๒. อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยที่สุด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ถ้ามีใครอยู่เป็นเพื่อนยิ่งดี การเดินไปที่ต่างๆ เช่น ห้องน้ำ ควรมีคนพยุงไปส่ง
๓. ห้ามขับรถเด็ดขาด เพราะอันตรายมาก
๔. ดื่มน้ำอุ่นบ่อยๆ หรือน้ำเกลือแร่ โดยการจิบบ่อยๆ เนื่องจากมีอาการคลื่นไส้ กินอาหารไม่ได้ หรืออาเจียน การดื่มน้ำเกลือแร่บ่อยๆ ช่วยลดอาการขาดน้ำได้ และช่วยไม่ให้อ่อนเพลีย
๕. กินยาพวกไดเมนไฮดริเนต (dimenhydrinate) ขนาด ๕๐ มิลลิกรัม (ยาแก้เมารถ เมาเรือ) กินครั้งละ ๑ เม็ด ทุกๆ ๖ ชั่วโมง จนเมื่ออาการดีขึ้นก็ลดเป็น ทุกๆ ๘ ชั่วโมง เมื่ออาการเป็นปกติดีแล้วสัก ๑-๒ วัน ก็สามารถหยุดยาได้ ในขณะเดียวกันอาจจะกินยา ซินนาริซีน (cinnarizine) ขนาด ๒๕ มิลลิกรัม หรือ เมอริสลอน ขนาด ๖ มิลลิกรัม ครั้งละ ๑ เม็ด วันละ ๓ ครั้ง พร้อมๆ กันก็ได้
ทำ ตามอย่างนี้แล้ว ส่วนมากอาการจะค่อยๆ ดีขึ้น เมื่อสามารถเดินตัวตรงได้ ไม่มีอาการอะไร ก็สามารถ ทำงานหรือกิจกรรมอื่นๆ ได้ตามปกติ คราวต่อๆ ไป เมื่อเริ่มๆ จะเป็นอาการแบบนี้ขึ้น
นมาอีก ก็ทำตามอย่างข้างบนเลย ไม่ต้องรอให้เป็นมากๆ จะได้ผลดีกว่า เพราะถ้ารอให้เป็นมากๆ โดยเฉพาะถ้ามีอาเจียนมากแล้วจะลำบาก
การ ดูแลตนเองเบื้องต้นมักจะได้ผลเป็นส่วนใหญ่ แต่บางครั้งด้วยปัจจัยหลายๆ ประการ จำเป็นต้องไปพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง
หลายคนอาจจะกังวลและสงสัยว่า เมื่อไหร่จึงควรไปพบแพทย์
มี หลายคนที่ไม่เคยไปพบแพทย์เลย และก็มีหลายคนเช่นกันที่ขาดความมั่นใจในตนเอง ต้องไป พบแพทย์ทุกๆ ครั้ง ซึ่งก็ไม่ดีทั้ง ๒ ทาง ดังนั้น จึงมี ข้อแนะนำง่ายๆ ดังนี้
๑. เมื่อทำตามวิธีการดูแลด้วยตนเอง ข้างต้นแล้วผ่านไปอย่างน้อย ๘_๑๒ ชั่วโมงไม่ดีขึ้น หรืออาการแย่ลง ควรรีบไปพบแพทย์
๒. มีอาการอาเจียนมาก กินยา และดื่มน้ำไม่ได้เลย หรือกินยาแล้วมีอาเจียนทุกครั้ง ร่างกายจะขาดน้ำ เกลือแร่ และยา อย่าฝืนทน ควรไปพบแพทย์เพื่อฉีดยา และบางรายอาจจะต้องให้น้ำเกลือทางหลอดเลือด ในรายที่เป็นมากจริงๆ อาจจะต้องพักในโรงพยาบาล แต่มีเป็นส่วนน้อย
๓. เมื่ออาการดีขึ้น แต่ไม่ยอมหายเป็นปกติเสียที ควรไปพบแพทย์เช่นกัน เพราะอาจจะมีสาเหตุบางอย่างซ่อนอยู่ ที่อาจจะจำเป็นต้องได้รับการค้นหาและรักษาที่ต้นเหตุ
๔. เป็นบ่อยๆ มากๆ จนรบกวนชีวิตประจำวันค่อนข้างมาก ก็ต้องหาสาเหตุเช่นกัน หรือในรายที่ไม่สามารถหาสาเหตุที่แท้จริงได้ การกินยาป้องกันไว้ก็อาจจะเป็นทางเลือกหนึ่ง
ขณะ นี้มีการใช้สมุนไพรกันมาก มีที่ได้ผลและไม่ได้ผล การใช้สมุนไพรมักเป็นลักษณะบอกต่างๆ กัน ความน่าเชื่อถือยังค่อนข้างมีปัญหา การเลือกซื้อจึงมีความจำเป็นมาก โดยเฉพาะธุรกิจขายตรงที่มีโอกาสเป็นลักษณะชวนเชื่อได้ง่ายๆ และราคามักจะแพงมาก
\มีสมุนไพรที่มีการศึกษาวิจัยมากพอควรที่น่าเชื่อถือ ได้ว่าจะช่วยรักษาอาการเวียนศีรษะ_บ้านหมุนได้ คือ สารสกัดจากใบแปะก๊วย (Gingko Biloba) ซึ่งมีขายตามร้านขายยาทั่วไป วิธีใช้มักจะเขียนรายละเอียด ที่ข้างกล่อง
จะป้องกันได้อย่างไร
การป้องกันค่อนข้างยากในรายที่ไม่ทราบสาเหตุ
ส่วนรายที่มีสาเหตุแน่ชัดมาจากปัจจัยบางอย่าง ควรต้องพยายามหลีกเลี่ยงจากปัจจัยนั้นๆ ซึ่งได้จากการสังเกตของเราเองหรือจากคำแนะนำของแพทย์
โดย รวมๆ แล้ว การดูแลสุขภาพโดยทั่วไปก็จะทำให้โอกาสเป็นน้อยลง หรืออาจจะไม่เป็นเลย เช่น พักผ่อนเพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทำจิตใจให้สงบและผ่อนคลาย หลีกเลี่ยงยาเสพติดและของมึนเมา กินอาหารที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ และหลีกเลี่ยงอาหารเค็มจัด การปฏิบัติเช่นนี้ ยังอำนวย ผลดีต่อสุขภาพโดยรวมด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น